ภายใต้สถานการณ์ตึงเครียดบริเวณแนวชายแดนไทย-กัมพูชา คนไทยไม่ทอดทิ้งกันชาวพิษณุโลกหลั่งไหลร่วมบริจาคเลือดเป้าหมาย 1 แสนซีซี ส่งต่อความห่วงใยให้ทหารและประชาชนในพื้นที่
เมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม 2568 ที่อาคารทีปวิชญ์ มหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม (ทะเลแก้ว) อำเภอเมือง จังหวัดพิษณุโลก บรรยากาศเต็มไปด้วยความอิ่มเอมใจ เมื่อประชาชนจำนวนมากต่างพร้อมใจกันมาร่วมบริจาคโลหิต เพื่อช่วยชีวิตผู้ได้รับบาดเจ็บจากสถานการณ์ความไม่สงบบริเวณแนวชายแดนไทย–กัมพูชา
กิจกรรมครั้งนี้จัดขึ้นโดยความร่วมมือระหว่างภาคบริการโลหิตแห่งชาติที่ 9 จังหวัดพิษณุโลก สภากาชาดไทย ร่วมกับมหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม โดยมีเป้าหมายระดมโลหิตจำนวน 100,000 ซีซี ส่งต่อความหวังไปยังแนวหน้าให้แก่ ทหารหาญและพี่น้องประชาชนที่กำลังเผชิญกับความไม่สงบตามแนวชายแดน ไทย-กัมพูชา
บรรยากาศตลอดทั้งวันมีนักศึกษา บุคลากร และประชาชนทั่วไปเดินทางเข้าร่วมบริจาคกันอย่างต่อเนื่อง บางคนเดินทางข้ามอำเภอ ข้ามจังหวัด มาเพียงเพื่อ “ขอมีส่วนช่วยเล็กๆ” ต่อชีวิตใครบางคนที่พวกเขาอาจไม่รู้จัก แต่ผูกพันกันด้วยความเป็น “คนไทย”
นายชุมพล เสมาขันธ์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม เปิดเผยว่า กิจกรรมในวันนี้เกิดขึ้นจากจิตสำนึกและหัวใจของคนไทยทุกคน ที่ไม่เคยลืมว่าทหารของเรากำลังเสี่ยงชีวิตปกป้องแผ่นดิน และประชาชนในพื้นที่ชายแดนยังต้องการความช่วยเหลือ เลือดทุกหยดที่เราบริจาควันนี้ จึงไม่ใช่แค่เพื่อรักษาอาการบาดเจ็บ แต่เป็นการส่งความรัก กำลังใจ และคำว่าห่วงใยไปให้ถึงชายแดน
ไม่เพียงแค่บริจาคโลหิตเท่านั้น ภายในงานยังมีประชาชนร่วมลงทะเบียน บริจาคอวัยวะ ดวงตา และร่างกาย เพื่อช่วยเหลือผู้ป่วยในอนาคต โดยมีจำนวนผู้แสดงเจตจำนงกว่า 800 คน ซึ่งสะท้อนถึงจิตอาสาและน้ำใจอันงดงามที่ยังคงอยู่ในสังคมไทยอย่างมั่นคง
สำหรับผู้มาร่วมกิจกรรมต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ถึงจะช่วยได้เพียงเล็กน้อย แต่ทุกหยดเลือดคือการส่งพลังชีวิต และกำลังใจไปให้เหล่าทหารกล้าและพี่น้องประชาชนที่กำลังเผชิญวิกฤติในพื้นที่เสี่ยงภัย
นักศึกษารายหนึ่งที่มาร่วมบริจาคโลหิตในวันนี้ได้บอกว่า ตั้งใจมาบริจาคโลหิต เพื่อส่งความห่วงใยไปยังพื้นที่แนวชายแดนไทย-กัมพูชา พวกเขาสู้เพื่อเรา เราก็อยากให้เขารู้ว่า เราไม่เคยลืมเขาเลยและขอส่งความห่วงใยให้กับแนวชายแดนทุกคน
////////////////