แม่บ้านสุดแสบขโมยทรัพย์นายจ้างเกือบ 2 แสน กล้องวงจรปิดจับภาพชัด

แม่บ้านแสนไว้ใจกลายเป็นหัวขโมย! ครอบครัวร้านซ่อมรถที่พิษณุโลกสุดช็อก หลังกล้องวงจรปิดจับภาพขณะก่อเหตุ ลักแหวนเพชร ทอง เงินสด และสุราดังรวมมูลค่าเกือบ 2 แสนบาท เจ้าทุกข์เผยไว้ใจเหมือนลูกหลาน วอนเตือนภัยอย่าประมาทคนใกล้ตัว


เมื่อเวลา 11.00 น.วันที่ 28 พฤษภาคม 2568 ผู้สื่อข่าวได้รับเรื่องร้องเรียนจากประชาชนถูกแม่บ้านแสบฉกแหวนเพชร ทอง เงินสด และเหล้ายี่ห้อดัง มูลค่าเกือบ 2 แสนบาท กล้องวงจรปิดสามารถบันทึกภาพแม่บ้านแสบขณะลงมือก่อเหตุไว้ได้ อยากฝากเตือนเป็นอุทาหรณ์ ผู้สื่อข่าวจึงเดินทางไปที่ ร้านชัยเจริญยนต์ ซึ่งเป็นร้านซ่อมรถยนต์และจำหน่ายอุปกรณ์รถยนต์ ตั้งอยู่ ม.7 ต.บางระกำ อ.บางระกำ จ.พิษณุโลก พบกับนางวรินทร์ธร ณรงค์ชัย อายุ 73 ปี พร้อมกับบุตรสาว คือ น.ส.มินมิราธ์ ณรงค์ชัย อายุ 37 ปี เล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า เมื่อประมาณเกือบ 2 ปีที่ผ่านมาได้ จ้าง น.ส.ทิพย์(นามสมมุติ) อายุ 49 ปี ชาวบ้าน ต.ปลักแรด อ.บางระกำ จ.พิษณุโลก ให้มาเป็นแม่บ้านประจำอู่รถ แบบเช้าไปเย็นกลับ โดยว่าจ้างให้ค่าแรงวันละ 380 บาท หยุดทุกวันอาทิตย์ มีหน้าที่ทำความสะอาดบ้าน และซักผ้า

นางวรินทร์ธรฯ บอกว่า น.ส.ทิพย์ฯ (นามสมมุติ) เป็นคนอัธยาศัยดี ทำงานมาด้วยกันเกือบ 2 ปี ครอบครัวตนก็ไว้ใจ มีอะไรก็แบ่งปันให้เสมอ รักเอ็นดูเหมือนลูกเหมือนหลาน จนกระทั่งหลังๆเริ่มรู้สึกว่ามีของหายบ่อยๆ และตู้ภายในบ้านที่ไว้เก็บของมีค่าก็เหมือนกุญแจพัง จนตนจึงเอ่ยปากขอให้ลูกชายมาติดตั้งกล้องวงจรปิด เพราะปกติแล้วบ้านหลังนี้ไม่มีคนนอกเข้าออก นอกจากแม่บ้านและคนในครอบครัว จนกระทั่งเริ่มชัดเจนแล้วว่าของมีค่าหายไป อาทิ แหวนทองฝังเพชร ชุดเครื่องประดับมุก สร้อยคอทองคำ สุราแบรนด์ดัง และเงินสดไม่ต่ำกว่า 3 หมื่นบาท รวมมูลค่าสิ่งของที่หายไปประมาณ 1.7 แสนบาท จึงให้ลูกชายเปิดกล้องวงจรปิดซึ่งสามารถย้อนหลังได้ 7 วัน คือสามารถย้อนไปได้ถึงแค่วันที่ 14 พ.ค.2568 ก็พบว่า คนที่ลงมือลักทรัพย์สิน ก็คือ น.ส.ทิพย์(นามสมมุติ) ที่เป็นแม่บ้านของตนนั่นเอง ซึ่งระยะเวลา 7 วันที่กล้องบันทึกภาพไว้ได้ ลงมือขโมยไปถึง 4 วัน จึงได้ไปแจ้งความไว้เมื่อวันที่ 25 พ.ค.2568 แต่ น.ส.ทิพย์(นามสมมุติ)ก็ปากแข็งยอมรับแค่เพียงว่าลักทองเงินสดและเหล้าไปจริง โดยเงินใช้หมดแล้ว ทองขายใช้เงินหมดแล้ว ส่วนเหล้าก็กินหมดแล้ว
นางวรินทร์ธรฯ บอกต่ออีกว่า สิ่งมีค่าที่สุดคือแหวนเพชร ซึ่งเป็นแหวนหมั้นตั้งแต่สมัยที่ตนแต่งงาน รักแหวนวงนี้มากมีคุณค่าทางจิตใจ ตนอยากขอคืน หรือขายที่ไหนก็ขอให้บอกตนจะไปซื้อคืน แต่ น.ส.ทิพย์(นามสมมุติ)ก็ไม่ยอมรับ


ด้าน น.ส.มินมิราธ์ (ลูกสาวนางวรินทร์ธร) ได้บอกว่าตนเสียใจมากที่รู้ว่าแม่บ้านเป็นคนลักทรัพย์สินของแม่ไป แถมติดตั้งกล้องวงจรปิดก็ไม่เกรงกลัว ยังปีนเก้าอี้มาบิดกล้องให้หันทางอื่น แต่ที่ น.ส.ทิพย์ไม่รู้คือ กล้องที่ตนติดนั้นมันเป็นกล้อง 2 ชั้น บิดชั้นล่างหลบ แต่กล้องตัวบนยังบันทึกภาพได้ และที่สำคัญคือ น.ส.ทิพย์(นามสมมุติ) ไม่มีทีท่าสลด หรือ รู้สึกผิดบ้างเลย เพราะหลังจากที่กลับจากโรงพักก็ยังไปโพสเฟสบุ๊คเหมือนกับว่าตนเองไม่ได้ทำอะไรผิด และย้อนไปดูโพสก่อนหน้านั้น ก็พบว่าเหล้าเก่าที่แม่เก็บสะสมไว้ เช่น ชีวาส แบล็ค และหลายยี่ห้อหลังจากที่ลักไปแล้วก็ไปเปิดกินโพสรูปผ่านทางโซเชียลโดยไม่เกรงกลัวว่าตนและครอบครัวจะเห็นเลย
ยืนยันเอาเรื่องจนถึงที่สุด วันนี้จึงอยากนำกล้องวงจรปิดมาเตือนเป็นอุทาหรณ์ อยากให้ทุกคนระมัดระวัง และอย่าไว้ใจจนเกิดไปเหมือนครอบครัวตน และอยากฝากเตือนนายจ้างคนอื่นๆ