ปัญหาขยะล้นเมืองพิษณุโลก เริ่มลุกลาม ล่าสุด ถนนเลียบคันคลองชลประทานหลังม.นเรศวร ตำบลท่าโพธิ์ อำเภอเมืองพิษณุโลกเต็มไปด้วยขยะตกค้างกองทิ้งเป็นกองใหญ่หลายจุดและส่งกลิ่นเหม็นคละคุ้งไปทั่ว หลังองค์กรปกครองส่วยท้องถิ่นประสบปัญหาบ่อขยะเอกชนถูกปิดประชาชนวอนผู้เกี่ยวข้องเร่งแก้ไขด้วย ขณะผู้ว่า สั่ง 32 อปท. และมหาวิทยาลัยนเรศวร เร่งแก้ไขปัญหา ด่วน

วันที่ 2 ก.ย.67 ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่สำรวจสภาพกองขยะริมถนนเลียบคันคลองชลประทาน หลังม.นเรศวร ตำบลท่าโพธิ์ อำเภอเมือง จังหวัดพิษณุโลก ที่ถูกทิ้งสะสมเป็นกองใหญ่หลายจุด ตกค้างมาร่วม 1 สัปดาห์ ส่งกลิ่นเหม็นคละคุ้งไปทั่ว สืบเนื่องจากบ่อขยะเอกชนเดิมที่เคยทิ้งได้ทำการปิดลง เมื่อปลายเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ขณะนี้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทั่วจังหวัดร่วม 30 กว่าแห่งกำลังเร่งดำเนินการแก้ไข หาที่ทิ้งขยะ โดยในส่วนของเทศบาลนครพิษณุโลกนั้นไม่มีปัญหา ยังคงจัดเก็บขยะให้กับประชาชนทุกวันแต่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นอื่นๆ กลับมีปัญหาไม่สามารถจัดเก็บให้ประชาชนได้
สภาพกองขยะบริเวณถนนเลียบคันคลองชลประทานด้านหลังม.นเรศวรนี้ ได้เริ่มทิ้งมาตั้งแต่ อบต.ท่าโพธิ์ ได้ประกาศแจ้งว่าจะขอหยุดการจัดเก็บขยะ เนื่องจาก บ่อขยะเอกชนมีปัญหาถูกสั่งปิด โดยค่อยๆมีผู้นำใส่ถุงดำและถุงพลาสติกทั่วไปมาทยอยทิ้งตั้งต่อเนื่องตั้งแต่วันที่งดจัดเก็บขยะ จนผ่านมาร่วม 1 สัปดาห์กว่าแล้ว ขยะที่กองใหญ่หลายจุดบริเวณนี้โดยเฉพาะวงเวียน ทางเข้าประตู 4 ม. นเรศวร เป็นกองใหญ่มากๆ ส่งกลิ่นเหม็นคละคลุ้งไปทั่ว
นายก้องกิจ ถาแก้ว อายุ 29 ปี เจ้าของร้านซ่อมมอเตอร์ไซค์ Sn มอเตอร์ หมู่ 7 ตำบลท่าโพธิ์บริเวณข้างปั๊ม PT ใกล้เคียงกับจุดทิ้งขยะกองใหญ่เปิดเผยว่า นับแต่อบต.ท่าโพธิ์ประกาศหยุดทิ้งก็ค่อยๆเริ่มมีกองขยะมากองไว้บริเวณนี้ ผู้มาทิ้งมีทั้งขี่รถจักรยานยนต์มา รถยนต์เก๋งรถยนต์กระบะมาจอดทิ้งไว้ โดยนำมา ทิ้ง ทั้งกลางวันและกลางคืน และที่ผ่านมาก็ไม่เคยมีการดำเนินการจัดเก็บเลย ทำให้เห็นเป็นกองใหญ่และมีกลิ่นเหม็นมาก สำหรับตนนั้นเมื่อทราบว่าอบต .งดจัดเก็บตนก็ดำเนินการเก็บขยะในส่วนของตนไว้บริเวณหน้าร้านและหาวิธีในการจ้างเอกชนอื่นๆมาดำเนินการไปจัดการให้ อยากวิงวอนให้ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องหาวิธีการแก้ปัญหาขยะให้เป็นรูปธรรมโดยเร็ว
ขณะที่ขยะกองใหญ่อีกจุดหนึ่งที่อยู่ห่างไปประมาณ 100 เมตร มีถุงดำใส่ขยะมาทิ้งไว้คันนี้โดยสายตาแล้วไม่ต่ำกว่า 100 ถุงและส่งกลิ่นเหม็นมากเช่นกันบริเวณนั้นมีผู้เขียนป้ายด้วยว่า ” คนดี ๆเขาไม่ทิ้งตรงนี้มีแต่คนอัปรีย์-จัญไร ที่ทิ้ง “ แต่ก็ไม่เป็นผลอะไรเพราะขยะยังกองใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ และบริเวณนี้ก็มีผู้มาเก็บขยะที่ใช้ได้เพื่อนำไปขายอาทิขวดแก้ว ขวดพลาสติก กระป๋องเครื่องดื่ม ซึ่งถูกทิ้งมารวมกับถุงดำไม่ได้มีการคัดแยกดั่งที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นพยายามรณรงค์

ด้านนายภูสิต สมจิตต์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก กล่าวว่า ปัญหาขยะจังหวัดพิษณุโลก เนื่องจากบ่อขยะเดิมกำลังจะหมดสัญญา ในวันที่ 30 ก.ย. นี้ ซึ่งก่อให้เกิด อปท. 32 แห่ง และมหาวิทยาลัยนเรศวร เกิดปัญหาไม่มีสถานที่ทิ้งขยะ ส่งผลให้เกิดปัญหา เนื่องจากประชาชนต่างคิดว่า เสียเงินกับค่าขยะให้กับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นแล้ว ซึ่งไม่ใช่การแก้ไขปัญหา โดยแนวทางนั้นจะมีต้องร่วมด้วยช่วยกันในการเริ่มต้นจากต้นทางคือ ครัวเรือน ที่ต้องมีการคัดแยกขยะ ทั้ง ขยะเปียก ขยะรีไซเคิล ที่ขายได้ ขยะ RDF ซึ่งจะทำให้ลดปริมาณขยะที่ต้องแก้ไขปัญหาได้ ส่วนที่มีปัญหาการขยะ มาทิ้งไว้สถานที่สาธารณะ หรือตามจุดต่างๆ ทั่วเมืองพิษณุโลก นั้น ตนเอง ได้เรียกประชุม อปท. ทั้ง 32 แห่ง และมหาวิทยาลัยนเรศวร ให้เร่งหามาตรการแก้ไขโดยเร่ง คือ หาสถานที่หรือ อปท.รวมกลุ่มกันหาจุดทิ้ง ซึ่งอนาคตก็ต้องหามาตรการแก้ไขอีก โดยที่ผ่านมา ทางเทศบาลตำบลหัวรอ ได้ทำเรื่องขอกระทรวงมหาดไทย เพื่อเปิดโรงงานกำจัดขยะพลังงานไฟฟ้า แต่ก็เป็นเรื่องยื่นไว้นานแล้ว ก็ยังไม่ทีท่าจะทำได้

กรณีที่มีภาคเอกชน มารับซื้อขยะตามบ้านเรือน ในในราคาถุง ละ 50 บาท เพื่อจะนำไปทิ้งหรือกำจัดขยะได้ ในช่วงนี้ นั่น ผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก กล่าวว่า การรับซื้อขยะก็สามารถทำได้ แต่ถ้านำไปกำจัดแบบถูกวิธี หรือ คัดก็ไม่ผิด แต่หากรับซื้อแล้วนำไปทิ้งในที่สาธารณะ ถือว่าผิดกฎหมาย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันนี้ หลาย อบต.เริ่มมีมาตรการแก้ไขบ้างแล้ว เช่น อบต.ท่าโพธิ์ เริ่มจะให้รถเก็บขยะทยอยเก็บทุกสัปดาห์ , อบต.ท่าทอง ก็มีการให้รถเก็บทุกวัน ,อบต.บึงพระ ให้ประชาชนคัดแยกขยะที่ต้นทาง แล้วจะเก็บขยะทุกวันจันทร์ พุธ ศุกร์

/////////////