เมื่อเวลา 00.10 น. วันที่ 8 ก.พ. พ.ต.ท.เสน่ห์ พรมรัตน์ สว.(สอบสวน) สภ.นครไทย รับแจ้งมีเหตุเพลิงไหม้เป็นบ้านพักไม่มีบ้านเลขที่ พื้นที่ หมู่ 19 บ้านห้วยแก้ว ต.หนองกระท้าว อ.นครไทย จ.พิษณุโลก หลังรับแจ้งจึงรุดตรวจสอบพร้อมด้วยแพทย์เวรโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชนครไทย เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยบูรพา ที่เกิดเหตุเป็นเพิงพักลักษณะคล้ายกระต๊อบ สี่เหลี่ยมผืนผ้าเสาปูนสี่ต้นมุงด้วยสังกะสีและไม้ มีเตาแก๊สปิกนิคและอุปกรณ์เครื่องทำครัวอยู่ข้างใน พร้อมกับเป็นที่นอน เพลิงได้เผาวอดไปแล้วเหลือแค่กองเถ้าถ่านและกลุ่มควันไฟ พบร่างผู้เสียชีวิต จำนวน 2 ราย สภาพถูกไฟคลอกไหม้ดำเป็นตอตะโกทั้งตัว ทราบชื่อผู้เสียชีวิตรายแรก คือ นายจรัญ เปียทอง อายุ 31 ปี อยู่บ้านเลขที่ 124 หมู่ 15 ต.วังนกแอ่น อ.วังทอง จ.พิษณุโลก รายที่สอง คือ ด.ญ.ปาริฉัตร เปียทอง อายุ 4 ปี ทั้งสองเป็นพ่อลูกกัน ซึ่งจะได้ติดตามหาญาติให้ทราบเรื่องที่เกิดขึ้น ส่วนศพเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยบูรพาได้ดำเนินการเคลื่อนย้ายร่างผู้เสียชีวิต นำส่งสถาบันนิติเวชโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชนครไทยเพื่อชันสูตรหาสาเหตุการเสียชีวิตอย่างละเอียดอีกครั้ง
เบื้องต้นจากการสอบถามนายพีรพล จูประสาท อายุ 42 ปี นายจ้าง เปิดเผยว่า ทั้งสองคนพ่อลูกได้มาทำงานรับจ้างทั่วไปอยู่ที่บ้านของตน เนื่องจากตนเป็นผู้รับเหมาตัดต้นยางพาราที่หมดสภาพแล้ว และให้เฝ้าสวนยางพารา ส่วนภรรยาของผู้ตายได้เลิกรากันไปแล้ว จึงต้องทำงานเลี้ยงลูกเพียงลำพัง ด้วยความสงสารตนจึงสร้างเป็นเพิงพักไว้ให้ใกล้ๆ กับบ้านของตนเอง ห่างกันประมาณ 30 เมตร เมื่อช่วงค่ำก่อนเกิดเหตุหลังเลิกงานก็แวะดื่มกินกันบ้าง แล้วก็ขอตัวแยกย้ายกันกลับ โดยผู้ตายกับลูกสาวก็เข้าบ้านเพื่อพักผ่อนตามปกติ แต่จู่ๆ ก็มีชาวบ้านวิ่งมาตะโกนบอกว่าไฟไหม้บ้านของลูกจ้าง ตนจึงรีบออกไปดูก็พบว่าไฟโหมลุกไหม้ตัวบ้านจนหมดแล้ว ไม่มีโอกาสได้เข้าไปช่วยเหลือสองพ่อลูกแต่อย่างใด คาดว่าผู้ตายอาจจะจุดเตาแก๊สทำกับข้าวทิ้งไว้แล้วเผลอหลับไปพร้อมกับลูกสาว เพราะอ่อนเพลียจากการทำงานประกอบกับดื่มกินไปด้วยพอสมควร ก่อนจะเกิดไฟลุกลามติดทั่วเพิงพักจนถูกไฟคลอกเสียชีวิตด้วยกันทั้งคู่อย่างน่าสลดใจ
ด้าน น.ส.ปาริชาติ วงศ์สุวรรณ อายุ 21 ปี ภรรยาของผู้เสียชีวิต กล่าวด้วยความโศกเศร้าเสียใจเป็นอย่างมากว่า ต้องมาสูญเสียทั้งสามีและลูกสาวในวันเกิดของตนเอง ก่อนหน้านี้คบหากับผู้ตายแต่ก็ต้องเลิกรากันไปได้ประมาณ 1 ปี เพราะมีเรื่องทะเลาะเบาะแว้งกันอยู่ประจำ ถึงขั้นลงไม้ลงมือและเคยถูกสามีใช้อาวุธปืนข่มขู่จึงแจ้งความกันเอาไว้ ส่วนลูกสาวสามีตนรักลูกมากๆ จึงขอไปเลี้ยงดูแลเอง ส่วนตนก็ไปๆ มาๆ หาลูกสาวอยู่เป็นครั้งคราว วานนี้กลับมาที่บ้านในพื้นที่ใกล้ที่เกิดเหตุ ทราบข่าวว่าสามีและลูกสาวมาหาแต่ก็ไม่พบต้องคลาดกันไม่ได้พบเจอ จนมาทราบข่าวร้ายว่าเพลิงไหม้บ้านสามีกับลูกสาวจนถูกไฟคลอกตายทั้งคู่ ขณะนี้ก็ยังทำใจกับเรื่องที่เกิดขึ้นไม่ได้ เช้าวันนี้ตนเองพร้อมญาติๆ จึงได้เดินทางมาติดต่อเพื่อขอรับศพไปประกอบพิธีทางศาสนาที่วัดห้วยแก้ว อ.นครไทย ซึ่งจะทำพิธีการฌาปนกิจต่อไป.
////////////////